ใช้น้ำหอมอย่างไรไม่ให้เกิดคราบบนเสื้อผ้า?

หลายคนชอบฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าเพราะคิดว่ากลิ่นจะติดทนนานกว่า แต่ข้อควรระวังคือน้ำหอมบางสูตรสามารถทำให้เกิดคราบบนผ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยเหลือง รอยมัน หรือจุดด่าง โดยเฉพาะเสื้อสีอ่อน ผ้าบางและผ้าเนื้อพรีเมียมบางชนิด เพื่อไม่ให้เสื้อเสียและยังได้กลิ่นหอมแบบยาวนาน นี่คือวิธีใช้ที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุด
ทำไมน้ำหอมถึงทำให้เสื้อผ้าเป็นคราบได้?
- ส่วนผสมที่มีน้ำมันสูง
น้ำมันหอม (fragrance oil) เข้มข้นอาจซึมเข้าผ้าและทิ้งรอยมันได้
- สารสีจากวัตถุดิบบางชนิด
น้ำหอมบางตัวมีโทนสีเหลืองหรืออำพัน อาจทำให้ผ้าขาวมีคราบ
- แอลกอฮอล์ระเหยช้า
หากฉีดใกล้เกินไป แอลกอฮอล์ที่ยังไม่แห้งจะสัมผัสผ้าและทำให้เกิดรอยด่างได้
ผ้าแบบไหนเสี่ยงเกิดคราบมากที่สุด?
ผ้าไหม (Silk)
ผ้าวูล (Wool)
ผ้าซาติน
ผ้าลินินสีอ่อน
ผ้าโพลีเอสเตอร์เนื้อละเอียด
*ผ้าเหล่านี้ดูดซึมกลิ่นและน้ำมันได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโดยตรง
วิธีใช้น้ำหอมไม่ให้เสื้อเป็นคราบ
1) ฉีดบนผิวแทนการฉีดลงบนผ้า
ปลอดภัยกว่า แถมช่วยให้กลิ่นพัฒนาได้ครบโน้ตตามตั้งใจของนักปรุงน้ำหอม
จุดแนะนำ: หลังหู คอ ข้อศอกด้านใน หน้าอก
2) เว้นระยะฉีดอย่างน้อย 15-20 ซม.
เพื่อลดละอองน้ำมันกระเด็นเป็นจุดบนผ้า
3) เลือกสูตรที่สีใสสำหรับวันที่ใส่เสื้อขาว
EDT, fresh, citrus, marine กลิ่นเหล่านี้มักใสและทิ้งคราบน้อยกว่า
4) ฉีดบนเสื้อเฉพาะโซนที่ไม่เห็นชัด
เช่น ด้านในชายเสื้อ ปลายแขนเสื้อด้านใน
หากเผลอฉีดน้ำหอมเป็นคราบต้องทำอย่างไร?
- ซับทันทีด้วยทิชชูแห้ง ไม่ถู
- ใช้น้ำสบู่อ่อนๆ แตะเบาๆ
- ทดสอบ spot test ก่อนทำกับคราบจริง
- ส่งร้านซักแห้งถ้าเป็นผ้าเนื้อพิเศษ เช่น ผ้าไหมหรือซาติน
การใช้น้ำหอมกับเสื้อผ้าไม่ใช่เรื่องน่ากังวล หากรู้เทคนิคที่ถูกต้อง เลี่ยงผ้าที่เสี่ยง ฉีดในจุดที่เหมาะสม และให้ละอองแห้งก่อนสัมผัสเสื้อ คุณจะได้ทั้งกลิ่นหอมติดทนและเสื้อผ้าที่ปลอดคราบอย่างมั่นใจในทุกลุคค่ะ


