รู้หรือไม่? น้ำหอมไม่ใช่เครื่องสำอางแต่เป็น “ผลิตภัณฑ์เคมี”
หลายคนอาจเข้าใจว่า น้ำหอม เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องสำอางเหมือนกับลิปสติกหรือครีมบำรุงผิว แต่ในความเป็นจริงแล้ว การจำแนกทางกฎหมายและมาตรฐานสากล น้ำหอมถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ ผลิตภัณฑ์เคมี ไม่ใช่เครื่องสำอางอย่างที่หลายคนคิด แล้วเหตุผลคืออะไร?
ทำไมน้ำหอมไม่ถูกจัดเป็นเครื่องสำอาง
- กฎหมายสากลและท้องถิ่น: ในหลายประเทศ รวมถึงไทย น้ำหอมถูกควบคุมภายใต้หมวดผลิตภัณฑ์เคมี เนื่องจากส่วนผสมมีสารระเหยง่าย แอลกอฮอล์ และสารก่อภูมิแพ้ที่อาจมีผลต่อสุขภาพ
- วัตถุประสงค์การใช้: เครื่องสำอางตามนิยามคือสิ่งที่ใช้เพื่อความสวยงาม ปกปิด หรือบำรุงผิว ในขณะที่น้ำหอมมีหน้าที่หลักคือ ให้กลิ่นหอม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสภาพผิว
- มาตรฐานการผลิต: น้ำหอมต้องผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยของสารเคมีและการระคายเคืองที่เข้มงวดกว่าผลิตภัณฑ์ความงามทั่วไป
ผลกระทบของการจำแนกเป็นผลิตภัณฑ์เคมี
1. ข้อบังคับด้านการติดฉลาก
- ต้องระบุสารก่อภูมิแพ้ตามมาตรฐาน EU/IFRA
- ต้องระบุวันหมดอายุ เลขที่ผลิต และข้อมูลความปลอดภัย
2. การนำเข้าและส่งออก
- น้ำหอมต้องมีเอกสารรับรองด้านเคมี ไม่ใช่เพียงแค่ใบอนุญาตเครื่องสำอาง
3. การสื่อสารการตลาด
- ผู้ประกอบการไม่สามารถโฆษณาว่าน้ำหอมมี สรรพคุณบำรุงผิว เพราะจะผิดหมวดหมู่
แล้วผู้บริโภคควรทำอย่างไร?
- เลือกซื้อน้ำหอมจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ที่มีการติดฉลากและข้อมูลครบถ้วน
- ตรวจสอบสารก่อภูมิแพ้ หากเป็นคนผิวแพ้ง่าย
- เก็บรักษาให้ถูกต้อง เช่น หลีกเลี่ยงแดดและความร้อน เพื่อลดความเสื่อมของสารเคมี
น้ำหอมอาจดูใกล้เคียงกับเครื่องสำอาง แต่ในทางกฎหมายและมาตรฐานการผลิต น้ำหอมคือ ผลิตภัณฑ์เคมี ที่ต้องมีการควบคุมเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค การเข้าใจจุดนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้ใช้เลือกอย่างมั่นใจ แต่ยังเป็นความรู้สำคัญสำหรับผู้ที่คิดจะสร้างแบรนด์น้ำหอมของตนเองด้วย
ถ้าคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกลิ่นและผลิตน้ำหอมมาตรฐานสากล The Kingdom Scent พร้อมดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ
อ้างอิง
European Commission Cosmetics Regulation (EC) No 1223/2009.
IFRA Standards International Fragrance Association.
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ประเทศไทย.
U.S. Food & Drug Administration (FDA) Perfume and Fragrance.
Springer Fragrance Chemistry.