แชร์

ที่มาของคำว่า Perfume จากภาษาละติน Per Fumum

อัพเดทล่าสุด: 19 ก.ย. 2025

เมื่อนึกถึงคำว่า น้ำหอม (Perfume) หลายคนอาจเชื่อมโยงกับความหรูหรา ความสวยงาม หรือการสร้างเสน่ห์ แต่หากย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ คำนี้มีที่มาที่ลึกซึ้งและน่าสนใจยิ่งกว่าที่คิด เพราะคำว่า Perfume มีรากศัพท์จากภาษาละตินโบราณว่า Per Fumum ซึ่งแปลตรงตัวว่า ผ่านควัน

จุดกำเนิดจากพิธีกรรมโบราณ
ในสมัยอียิปต์โบราณ กรีก และโรมัน กลิ่นหอมไม่ได้ถูกใช้เพื่อความงามเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของ พิธีกรรมทางศาสนา การเผาไม้หอม สมุนไพร และยางไม้หอมต่าง ๆ ถูกมองว่าเป็นการส่งกลิ่นหอมขึ้นไปถึงเทพเจ้า ซึ่งสะท้อนถึงความศรัทธาและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คำว่า Per Fumum (ผ่านควัน) จึงไม่ได้เป็นเพียงรากศัพท์ แต่ยังเป็นเครื่องบ่งบอกว่ากลิ่นหอมในยุคแรกเริ่มมีความหมายเชื่อมโยงกับวิญญาณและความเชื่อ ไม่ใช่แค่การแต่งกลิ่นกายเหมือนในปัจจุบัน

จากควันสู่หยดน้ำหอม
เมื่อเวลาผ่านไป น้ำหอมค่อย ๆ พัฒนา จากการใช้ควันและกลิ่นสมุนไพรในพิธีกรรม มาสู่น้ำมันหอมและบาล์ม ก่อนจะกลายเป็น น้ำหอมในรูปแบบของเหลว ที่ถูกผลิตขึ้นในยุโรปช่วงยุคกลาง ซึ่งมักใช้เฉพาะในราชสำนักหรือชนชั้นสูง เพราะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและหายาก

นั่นทำให้ Perfume ไม่ใช่แค่คำศัพท์ธรรมดา แต่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความหรูหรา ที่มีการสืบต่อกันมายาวนานหลายพันปี

อ้างอิง: Encyclopedia Britannica (2023), Musée International de la Parfumerie, Classen et al. (1994).


บทความที่เกี่ยวข้อง
ความลับที่ซ่อนอยู่... กลิ่นหอมทำงานกับสมองเรายังไง?
ค้นพบวิธีที่กลิ่นหอมกระตุ้นสมอง สร้างความผ่อนคลาย ความจำ และพลังงานในชีวิตประจำวัน
คำศัพท์น้ำหอมที่ควรรู้ก่อนสั่งผลิต | The Kingdom Scent
รวมคำศัพท์น้ำหอมสำคัญ ตั้งแต่โน้ตกลิ่น วัตถุดิบ ไปจนถึงมาตรฐานการผลิต ช่วยให้คุณสื่อสารกับโรงงานได้ชัดเจน
ทำไมน้ำหอมส่วนบุคคลถึงได้รับความนิยม? เฉพาะคุณเท่านั้น
ค้นหาคำตอบว่าทำไมน้ำหอมส่วนบุคคลถึงเป็นที่นิยม จุดเด่นของกลิ่นเฉพาะตัว สะท้อนรสนิยมและเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy